วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประวัติศาสตร์การท่อเที่ยวจากยุคเริ่มต้นถึงหลังสงครามโลกครั้งที่2

ประวัติศาสตร์การท่อเที่ยวจากยุคเริ่มต้นถึงหลังสงครามโลกครั้งที่2
การศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจและศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยวเนื่องจากมีบทเรียนจากประวัติศาสตร์มากมายที่ต้องจดจำและสามารถนำประยุกต์ใช้ในการท่องเที่ยวในปัจจุบัน  สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้เปลี่ยนจากการท่อเที่ยวในอดีตเมื่อ 3 พันปีก่อนก็คือในปัจจุบันมีการจัดให้บริการด้านอาหาร  มัคคุเทศก์  และการขายของที่ระลึก เช่นเดียวกับในอดีตจะต่างกันแต่มาตรฐานและความสะดวกสบายซึ่งในปัจจุบันมีความทันสมัยมากกว่าแต่ก่อน
มัคคุเทศก์และคู่มือนำเที่ยวในยุคต้นๆ
หนังสือคู่มือนำเที่ยวปรากฏขึ้นครั้งแรกเมื่อ 400ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเอเธนส์  สปาร์ตา และเมืองทรอย   นักเขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวชาวกรีก  ชื่อPausaniasไดเขียนหนังสือชื่อ Description of  Greece ขึ้นในระหว่างคศ.160-180  ซึ่งเป็นการเขียนวิจารณ์เกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
การท่องเที่ยวในยุคกลาง
ปัญหาของนักท่องเที่ยวในยุคกลางต้องเผชิญ  คือ โจนผู้ร้ายที่คอยดักปล้นนักท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์ในสมัยนั้นจึงต้องทำหน้าที่นำทางและเป็นทั้งผู้ปกป้องนักท่องเที่ยว
การพัมนาการคมนาคมาทงถนนในคริสจศตวรรษที่  17ถึงต้นศตวรรษที่  19
การเดินทางเปผ้นการเดินทางระยะไกลๆเรื่องที่พักจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้เดินทาง  ในสมัยนั้นจึงมีที่พักแบบ inn  เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเพื่อให้ผู้ดินทางพักแรมและให้มีโอกาสผลัดเปลี่ยนหน้าที่ แต่ที่พักในสมัยนั้นก็เป็นที่พักแบบง่ายๆ
การพัฒนาการคมนาคมทางถนนในคริสตศตวรรษที่17และต้นศตวรรษที่19
          ในช่วงก่อนถึงศตวรรษที่16คนที่ต้องการเดินที่มีวิธีที่จะทำได้ 3 วิธี คือด้วยการเดินเท้าซึ่งเป็นวิธีเดินทางของคนจน วิธีที่สองคือการขี่ม้า วิธีสุดท้ายคือ ใช้เสลี่ยงโดยมีคนรับใช้เป็นผู้แบกซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีเดินทางของชนชั้นสูงเท่านั้น
ในศตวรรษที่18 มีระบบทางด่วนที่ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าผ่านทางเกิดขึ้น การเดินทางเป็นระยะทางไกลๆเรื่องที่พักเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้เดินทาง ในสมัยนี้จึงมีที่พักประเภท inn เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ประมาณค..1815 ถนนหนทางในทวีปยุโรปมีการพัฒนาดีขึ้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากจกค้นพบประโยชน์ของยางมะตอยทำให้เกิดการเดินทางที่เร็วขึ้น
การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวประเภทที่อาบน้ำแร่ (Spa)
          การอาบน้ำแร่หรือสปา เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วตั้งแต่ยุคโรมันโดยเชื่อกันว่าน้ำเร่มีคุณสมบัติทางยา แต่ความนิยมการไปอาบน้ำแร่ได้ลดลงในยุคหลังๆแต่ไม่ได้หมายความว่าความนิยมจะลดลงโดยสิ้นเชิง ในที่สุดตอนต้นของศตวรรษที่19บรรดารีสอร์ทต่างๆก็เปลี่ยนโฉมไปสู่ตลาดล่าง (down market) ตามวงจรชีวิตของตลาดและเมื่อถึงปลายศตวรรษที่18 ยุคเฟื่องฟูของบ่อน้ำแร่ในอังกฤษก็ถึงการอาวสานต์ ถึงแม้ว่าวงจงชีวิตของสปายังคงยืดยาวต่อไปในภาคพื้นยุโรปในประเทศอังกฤษแหล่งท่องเที่ยวประเภทสปาได้เปลี่ยนโฉมไปเป็นผู้สูงอายุ คนชรานิยมย้ายไปอยู่ ผู้อาศัยถาวร
กำเนิดยุคสถานที่ตากอากาศชายทะเล
          การอาบน้ำทะเลพึ่งจะเริ่มเป็นที่นิยมในอังกฤษตั้งแต่สมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ (Renaissance) การอาบน้ำทะเลในสมัยนั้น ผู้อาบอาบทั้งเสื้อผ้า เพราะการถอดเสื้อผ้าว่ายน้าขัดจากจารีดในสมัยนั้นการอาบน้ำทะเลเริ่มต้นจากเหตุผลทางด้านสุขภาพ ความนิยมในการบำบัดด้วยน้ำทะเลซึ่งเป็นผลมาจากผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมั่งคั่งขึ้งจากการขยายตัวทางการค้าและอุตสาหกรรม
ปัจจัยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในศตวรรษที่19
          จากประวัติการท่องเที่ยวตั้งแต่อดีตจนถึงศตวรรษที่19 จะเห็นได้ว่ามีปัจจัยหลายประการที่ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางจะแบ่งปัจจัยเหล่านี้เป็น2กลุ่มคือ ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการเดินทาง และ ปัจจัยถึงดูดให้คนเดินทาง ข้อจำกัดอีกอย่างสำหรับนักเดินทางได้แก่ความเสี่ยงกับโรคภัยไข้เจ็บ เพราะระบบสาธารณะสุขในเมืองใหญ่ๆในอดีตยังไม่เป็นมาตรฐานเช่นในปัจจุบันนี้
ยุคเครื่องจักรไอน้ำ : กำเนิดการเดินทางทางรถไฟ
           ทางรถไฟสายแรกถูกสร้างขึ้นในอังกฤษในปี ค..1825 (ตรงกับสมัยรัชการที่3 กรุงรัตนโกสินทร์) ระหว่างเมือง Stockton และ Darlington ในช่วงศตวรรษที่1850 บริษัทไฟต่างๆก็พร้อมใจกันลดราคาค่าเดินทางสำหรับการท่องเที่ยวรายวัน การท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์ และการท่องเที่ยวระยะยาวเพื่อกระตุนให้คน เดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้น
รถกลไฟ
ขณะที่รถไฟทำให้เกิดการเดินทางภาคพื้นดิน เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ทำให้เกิดการพัฒนาเรือกลไฟเพื่อการเดินทางทางน้ำ การพัฒนาทางด้านการค้ากับทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทวีปอเมริกาเหนือทำให้ประเทศอังกฤษต้องพัฒนาการสื่อสารรูปแบบต่างๆที่เร็วขึ้นและเชื่อใจมากยิ่งขึ้น
การวงการท่องเที่ยวในศตวรรษที่ 20 (1901-2000) ช่วง 50 ปีแรก (1910-1950)
 ในช่วงนี้การท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อไป เพราะความมั่งคั่งของผู้คน ความอยากรู้ ความอยากเห็น และทัศนคติที่กล้าแสดงออกมากข้นในยุคหลังสมัยวิกตอเรียประกอบกับการพัฒนาระบบการขนส่งอย่างต่อเนื่อง นักเดินทางมีความปลอดภัย จากโรคภัยไข้เจ็บและโจรผู้ร้าย ทวีปยุโรปมีความมั่งคั่งทางการเมืองการเดินทางก็ไม่ยุ่งยาก ตั้งแต่ปี 1860
รูปแบบการเดินทางเปลี่ยนไป ความนิยมในการเดินทางด้วยรถไฟ ลดลงเพราะคนนิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น มีการพัฒนาถนน พัฒนารถบรรทุก ที่ขนสัมภาระในสงคราม
การกำเนิดอุตสาหกรรมการบินระยะแรกเป็นสัญญาณบ่งบอกให้เห็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดของการบริการทางรถไฟ และเรือกลไฟ เนื่องจากการบริการทางเครื่องบินในตอนแรกยังคงมีราคาแพง ขลุกขลัก ต้องหยุดและพักบ่อยและบริการไม่ค่อยสม่ำเสมอ
การท่องเที่ยวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เช่นเดียวกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ความสนใจของผู้คนที่จะเดินทางไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 เช่น เกิดความต้องการที่จะเห็นสภาพที่ที่เกี่ยวข้องกับสงคราม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น